top of page

ตอนที่ 4: การรักษากับการแพทย์ทางเลือก คุณหมอนที สุขเกษมสุวรรณ

  • AmpAmp
  • Mar 29, 2017
  • 2 min read

เนื่องจากได้ทำกายภาพมา 1 เดือนเต็มๆ ทำ 6 วันต่อสัปดาห์ ที่ รพ. ก็มีความรู้สึกว่า เอ๊ะทำไมทำมา1 เดือนนี่มันดีขึ้นแบบ 40-50% เอง ทำไมยังนั่งรถนั่งตรงมาทำกายภาพไม่ได้ ทำไมยังต้องนอนราบเอนเบาะมาทุกวัน และขณะที่นั่งมากล้ามเนื้อก็เกร็งและปวดตลอดเวลา นี่เป็นสาเหตุที่เราใช้ชีวิตประจำวันแบบปกติไม่ได้เลย ก็มีการคุยกับนักกายภาพตลอด ซึ่งมีการตั้งเป้าว่า 3 เดือนเราต้องดีขึ้น แต่เริ่มรู้สึกว่าการดึงคอเกือบทุกวันของเรา เมื่อกลับบ้านมา ทำให้เรามีอาการปวด และ ไม่ค่อยจะดีขึ้นเท่าที่ควร ซึ่งระหว่างนั้น ก็มีน้องๆพี่ๆที่รักกันก็มาเยี่ยมถามไถ่ ว่าอาการเป็นอย่างไร ซึ่งที่จะกล่าวนี้ก็ต้องขอขอบคุณน้องจินนี่ที่แนะนำให้รู้จักกับคุณหมอนที สุขเกษมสุวรรณ ซึ่งคุณหมอจบการแพนทย์แผนไทยประยุกต์ และได้เรียนรู้ศาสตร์วิชาการรักษาเรื่องกระดูกและกล้ามเนื้อมาอย่างเชี่ยวชาญ

เราได้ทำกายภาพที่รพ.เปาโลจริงจังตลอดเดือน มกราคม 2560 และได้ไปพบแพทย์ที่ รพ.ศิริราชปิยะมหาราชการุณย์ในวันที่ 21 มกราคม ซึ่งจริงๆเนี่ย ยังนั่งรถเข็นเข้าไปหาหมอตลอด เพราะเดินมากไม่ได้ จะทำให้อาการปวดเกร็งกลับมาและร้าวทั้งแขนและสะบัก ประกอบกับแขนก็ชาอีก เลยไปกันใหญ่ แต่การตั้งคอดีขึ้น คุณหมอก็ให้ยาบำรุงปลายประสาท และตกลงกันว่าจะทำกายภาพบำบัดต่อไป และจะยังไม่ตัดสินใจผ่ากระดูกที่ต้นคอ (ซึ่งจริงๆก็ตั้งธงไว้อย่างนั้น) แต่พอเราทำกายภาพไปสักเดือนกว่าๆ เข้าต้นเดือนกุมภาพันธ์ ก็มีความรู้สึกว่า เอ๊ะ หรือเราจะตัดสินใจผ่าตัดดี เพราะนี่คือเราไม่สามารถเดินเหินได้สะดวกเลย คอก็ตั้งนานไม่ได้ ทำให้เจ็บ ชีวิตก็ต้องลำบากต้องมีคนดูแล

เราก็เริ่มหาข้อมูลทางอินเตอร์เนต (ด้วยมือข้างเดียวนี่แหละ) หลายคนสงสัยว่ามือซ้ายชาแล้วจับ smartphone อย่างไร ก็เราไม่ได้จับงัย เพราะสามีประดิษฐ์ที่จับโทรศัพท์ขณะที่เรานอนราบได้ โดยใช้ไม้เซลฟี่มัดกับขาตั้งโคมไฟโต๊ะทำงานที่ตั้งพื้น ทีให้เรานอนราบและมองโทรศัพท์ โดยใช้มือขวาในการบังคับ smartphone เราก็หาว่าการแพทย์ทางเลือกเป็นอย่างไร รักษาโดยวิธีการอะไร คือเราทำหมดเลยนะ แช่ตัวดอกเกลือกับน้ำอุ่น ต้องขอบคุณพี่สาวที่เรารักที่สุดที่อุตส่าห์แวะไปหาหมอนที และรีบโทรมาบอกให้เรานัดหมอ เราน่ะอยากไปหาหมอนที สุขเกษมสุวรรณ มากๆๆๆๆ แต่เนื่องจากว่า อันนี้คิดเองนะ ว่าทุกเช้าเราต้องทำกายภาพที่โรงพยาบาล และตอนบ่ายเราต้องกวนคนที่บ้านไปส่งที่คลีนิคคุณหมออีก เราก็เกรงใจมากแล้ว พี่สาวเราไปหาคุณหมอก่อน ซึ่งเราก็อยากให้พี่เราไปหาเพราะพี่เราพักอยู่รัชดา ซึ่งใกล้กับคลีนิคคุณหมอมากๆ

รุ่งขึ้นเราได้พบกับคุณหมอนที แต่อยากบอกอาการก่อนไปหาคุณหมอก่อนนะคะ ว่าเราปวดบ่ามาก เป็นไมเกรน ซึ่งเอาจริงๆ เราไม่สามารถเดินไปอาเจียนที่ห้องน้ำได้ เราต้องอาเจียนที่ถังข้างๆเตียง คือก่อนหน้านี้คุณหมอที่ รพ.ศิริราชปิยะฯ ก็บอกว่า เพราะกล้ามเนื้อบ่ามันทับรัดตัว เลือดมันไหลเวียนไม่ดี ก็ทำให้เราปวดหัวได้

เรามีนัดกับคุณหมอนที วันที่ 8 กพ. 60 ที่บ้านคุณหมอประมาณ 1 ทุ่ม ซึ่งอยากจะบอกว่ามันคือ 50 minutes Miracle เพราะว่าพอคุณหมอจับเส้นเราเสร็จ อาการไมเกรนที่เป็นอยู่หายปลิดทิ้ง และเราสามารถตั้งคอโดยไม่มีอาการเจ็บถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งก่อนหน้านี้ เราตั้งคอได้แค่ 5-10 นาทีเท่านั้น คือตอนจ่ายค่ารักษาเสร็จ เรามายืนหน้าร้านคุณหมอแบบ งง ช๊อค อีก 5 นาที รีบบอกพี่สาว กับสามีว่า แอมเหมือนหายแล้วเลย นี่ไมเกรนแอมก็หาย กล้ามเนื้อเบาตัวไปหมด ที่สำคัญมันไม่เจ็บเลยตอนที่คุณหมอจับเส้นที่ตัว เหมือนเอานิ้ว ดีๆๆสะกิดๆๆ

แต่เราก็ปรึกษาคุณหมอนะว่า แล้วแบบนี้ยังต้องไปทำกายภาพหรือเปล่า ก็มีการคุยกันว่ายังสามารถไปทำกายภาพที่ รพ. คือ ทำอัลตร้าซาวน์ กระตุ้นไฟฟ้า ประคบร้อนได้ แต่เราจะไม่ดึงคออีกเพราะมันอาจจะทำให้คอบอบช้ำมากไป เพราะตลอดเดือนมกราคม เราทำกายภาพดึงคอเกือบทั้งเดือนไปแล้ว ซึ่งเราก็ทำต่อเนื่องถึงสิ้นกุมภาพันธ์ 2560

มาลงลึกกันต่อว่าไปหาคุณหมอนที ครั้งเดียวหายเลยเหรอ ก็ไม่ใช่นะคะ แต่สำหรับเราเราตอบสนองการรักษาของคุณหมอดีพอสมควร จึงทำการนัดสัปดาห์ละ 1 ครั้งตลอดมา อาการเจ็บชายังมีอยู่ แต่ทุเลาลงมากๆ แต่ก็ยังไม่สามารถเดินได้นาน แต่ถือกว่านานขึ้นกว่าตอนแรกๆเยอะมาก

มาดูว่าเราไปรักษากับคุณหมอนทีวันไหนบ้าง

ึครั้งที่ 1 8 กุมภาพันธ์ 2560

ึครั้งที่ 2 15 กุมภาพันธ์ 2560

ึครั้งที่ 3 25 กุมภาพันธ์ 2560

ครั้งที่ 4 1 มีนาคม 2560

ครั้งที่ 5 6 มีนาคม 2560

ครั้งที่่ 6 13 มีนาคม 2560

ครั้งที่ 7 29 มีนาคม 2560

อยากเล่าเรื่องที่เราต้องไป follow up กับคุณหมอจตุพร ที่โรงพยาบาลศิริราชปิยะฯในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งเราก็ไปหาคุณหมอเพื่อติดตามอาการและขอใบรับรองแพทย์ คุณหมอก็ดูกล้ามเนื้อเรา และให้เราเงยคอ ต้านมือ ให้เดินตรงให้ดู พร้อมกับดูฟิลม์ที่ MRI ไปเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งคุณหมอก็ย้ำว่าเราเป็นเยอะมากเหมือนกันใช้เวลา แต่ดูอาการแล้วทำกายภาพไปก่อนนะ ไม่น่าจะต้องผ่าตัด คุณหมอก็มีการสัมภาษณ์ว่าไปทำอะไรมาถึงดูดีขึ้น เราก็บอกว่าเราไปหาคุณหมอนที สุขเกษมสุวรรณ์ ซึ่งเราคิดว่าคุณหมอจตุพร โชติกวณิชย์ เป็นคุณหมอที่ใจกว้างมากทีเดียว เพราะคุณหมอบอกว่าดีๆๆ แสดงว่าจะหายด้วยการแพทย์ทางเลือกนะ เราฟังก็ดีใจมาก แล้วคุณหมอก็ถามว่าเคยฝังเข็มไหว เราก็บอกว่าเคยค่ะ หมอเลยบอกว่า งั้นมาฝังที่ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูที่ รพ.ศิริราชปิยะฯ เราก็คิดว่าเคยฝังเข็มแล้วไม่เห็นมีอะไรสบายมาก สรุปคือการฝังเข็มที่เราได้ทำล่าสุดเป็นการฝังเข็มแบบแห้ง ไม่ใช่การฝังแบบไฟฟ้า คือการเอาเข็มแทงขึ้นลงที่หลังเราทุกตารางเซ็นฝั่งสะบักที่เราปวดอยู่ คือเราก็อึดมากนะถามคุณหมอที่ทำให้ว่ามีคนเคยสลบไปไหมขณะที่ทำ คุณหมอบอกว่าส่วนใหญ่ก็ร้องว่าพอแล้ว (เราก็คิดในใจว่า บอกว่าพอแล้วได้เหรอ) คือรู้สึกตลอดว่าพอคุณหมอขยี้เข็มที่หลังคุณพยาบาลก็จะส่งคอตตอนบอลซับเลือดเราตลอดเวลา คือพอรักษาเสร็จ เราออกมานั่งร้องไห้นอกห้องเลย คือระบมมาก และต้องใช้ coldpack ประคบตอนอยู่ที่รพ. และกลับมาบ้านก็ระบมอีก 3 วัน แต่ถามว่าการรักษานี้ช่วยคลายกล้ามเนื้อได้ดี แต่เทียบกับความเจ็บที่ได้รับ อยากบอกว่าเข็ดหลาบ กลัวแล้วจริงๆ แต่ถ้าใครอยากให้ปวดกล้ามเนื้อไวๆก็ตามไปฝังเข็มแบบแห้งที่นี่ได้นะคะ

คือกลับมาบ้านก็เลยหาข้อมูลที่คุณหมอจัดให้เค้าเรียกว่า dry needling puncture ขอบคุณเวบไซต์ http://www.prannathorn.com

การฝังเข็มแบบตะวันตก (Dry needling puncture)

เป็นการฝังเข็มเฉพาะจุดที่เป็นปมกล้ามเนื้อที่หดเกร็ง ซึ่งเป็นบริเวณที่ขาดเลือดไปเลี้ยงและก่อให้เกิดอาการปวดดังที่ได้กล่าวเบื้องต้น การฝังเข็มทำให้เกิดการคลายตัวของปมกล้ามเนื้อและมีการเรียงตัวใหม่ของใยกล้ามเนื้อ รวมทั้งทำให้เลือดกลับมาเลี้ยงบริเวณดังกล่าวได้ดียิ่งขึ้นทำให้นำพาของเสียที่เกิดขึ้นออกนอกกล้ามเนื้อ และมีการหลั่งโพแทสเซียมจากกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ช่วยระงับปวดได้ดีขึ้น

ข้อดี คือ ได้ผลดีมากในกลุ่มโรคปวดกล้ามเนื้อจากกล้ามเนื้อหดเกร็งเป็นปม (Myofascial pain syndrome) ใช้จำนวนเข็มไม่มาก ไม่ต้องใช้ไฟฟ้ากระตุ้น คลายปมกล้ามเนื้อได้ตรงจุด ใช้เวลาในการรักษาไม่นาน ข้อเสีย คือ อาจมีอาการระบมเข็มหลังจากฝัง ประมาณ 1-2 วัน เนื่องจากเข็มที่ฝังไม่มียาชา และการฝังจะมีการปักขึ้นลงบริเวณกล้ามเนื้อนั้นจนปมกล้ามเนื้อคลายตัวหมด ซึ่งหากมีปมมากก็จะมีอาการระบมเข็มตามมามากเช่นกัน ซึ่งการทานยาลดอักเสบหรือประคบร้อนจะช่วยลดอาการดังกล่า

คือพี่สาวเราเห็นอาการเราดีขึ้นมากจากการเข้ารักษากับคุณหมอนทีตั้งแต่ครั้งแรก เชียร์ให้เราไปหาเร็วๆ กว่าจะคอย 1 อาทิตย์ ซึ่งถามว่าทำไมไม่ไปเร็วกว่านั้น บอกได้เลยว่า มีความระบมเส้น ซึ่งจริงๆตอนที่คุณหมอจับน่ะไม่เจ็บนะคะ แต่พอรุ่งขึ้นนี่ บางครั้งก็ตื่นไม่ไหว ตอนบ่ายล้าและง่วงมาก ซึ่งคุณหมอก็น่ารักตอบข้อความให้คำปรึกษาตลอดว่า ทำไมถึงปวด ให้ยืดเส้นท่าอะไรบ้าง ควรกินโปรตีนดีอะไรบ้าง ซึ่งเราก็ทำตามนะ

สำหรับเราเมื่อเรามารักษาอาการกับคุณหมอนทีอย่างเห็นได้ชัด เราก็พยายามฟื้นฟูกล้ามเนื้อตนเองด้วยการยืดกล้ามเนื้อ เราเลือกเล่น Pilates Mat สำหรับฟื้นฟูกล้ามเนื้อส่วนแขน ไหล่ หลัง คือทำแบบไม่หักโหม และเน้นในการ opening shoulder ให้มาก เพราะกล้ามเนื้อหน้าอกเรายึดไปหมด แล้วเราก็ไม่สามารถยืดแขนไปด้านหลังได้เหมือนก่อนป่วย ซึ่งเราต้องรีบฟื้นฟู คือเราคิดว่าเราโชคดีที่เจอคุณหมอนที แต่เราก็ต้องช่วยตัวเองฟื้นฟูกล้ามเนื้อ เรามีวีดีโอที่เราต้องออกกำลังกายยืดเส้นทุกวัน เพื่อจะทำให้เราทรงตัวในชีวิตประจำวันให้กลับมาอย่างดีที่สุด ซึ่งระหว่างนี้ อาการดีขึ้นแต่ยังคงต้องรักษาต่อไป

วีดีโอที่เราทำตามนะคะ

Beginner Senior Pilates with Sunshine (ชื่อเป็น senior แต่เหนื่อยเหมือนกันนะคะ)

https://www.youtube.com/watch?v=94n4sm7Ip_E

https://www.youtube.com/watch?v=rIAUd_eJ_hI

https://www.youtube.com/watch?v=K-PpDkbcNGo

https://www.youtube.com/watch?v=UeCSQ3VKJts

และการเปิดไหล่และบ่า

https://www.youtube.com/watch?v=ppToA1N0CgE

โพสเจอร์สำคัญมากๆ ในการยืนให้ตรง คอต้องไม่ก้ม

การใช้โทรศัพท์จะต้องใช้อย่างถูกต้องคือไม่ก้มหน้าจนเกินไป

ความตั้งใจในการเขียนนี้ ถึงจะไม่ได้เล่าละเอียดมาก แต่อยากให้ทุกท่านได้เห็นภัยเงียบของการนั่งนานๆ ยืนนานๆ การวางตัวเองผิด ทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ และที่สำคัญสำหรับตอนที่ 4 นี้ อยากให้ทุกท่านได้รู้จัการแพทย์ทางเลือก ซึ่งเป็นทางเลือกให้กับทุกท่านในการรักษา ไม่ได้อคติกับการแพทย์แผนปัจจุบันแต่อย่างใด เพียงแต่นำเสนอการรักษาส่วนตัว ที่ได้ผลลัพธ์ที่พอใจ และขอขอบพระคุณ คุณหมอนที สุขเกษมสุวรรณ ที่ทำการรักษาให้อย่างตั้งใจและทำให้มั่นใจในการรักษากับคุณหมอทุกครั้ง และเป็นการทำนัดไปหาคุณหมอที่ไม่พลาดเลยสักครั้ง และเฝ้ารอทุกวันเพื่อที่จะได้ไปรักษากับคุณหมอทุกอาทิตย์ ขอบพระคุณคุณหมอนทีอย่างสุดซึ่งมาอีกครั้งค่ะ

สำหรับคนที่สนใจติดต่อคุณหมอนทีนะคะ https://www.facebook.com/MorNateecure/

ที่อยู่ 27 ซอยรุ่งเรือง ถนนสุทธิสาร เขตห้วยขวาง แขวงห้วยขวางBangkok, Thailand

เบอร์โทร 086 893 3150

 
 
 

Comments


SOPHIE'S
COOKING TIPS

#1 

I'm a paragraph. Click here to add your own text and edit me.

 

#2

I'm a paragraph. Click here to add your own text and edit me.

 

#3

I'm a paragraph. Click here to add your own text and edit me.

© 2023 by Salt & Pepper. Proudly created with Wix.com

bottom of page